Life and Health ชีวิตกับสุขภาพ

บล๊อกนี้สร้างขึ้นเพื่อแบ่งปันความรู้เกี่ยวกับการเพิ่มความสุขในชีวิตด้วยด้วยวิธีการต่างๆ

  • Life and Health เมื่อความสุขสร้างได้ด้วยมือเรา
Posted by Life and Health 0 ความคิดเห็น

วิตามินเค (Vitamin K) คืออะไร
วิตามินเค (Vitamin K) มีอยู่หลายโครงสร้างเช่นเดียวกันกับวิตามินอี แต่ที่รู้จักกันมากคือวิตามินเค 1 หรือ Phylloquinone และวิตามินเค 2 หรือ Menaquinone ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการแข็งตัวของเลือดเมื่อเกิดบาดแผลตามร่างกาย เป็นส่วนประกอบสำคัญในการสร้างสารที่ใช้ในการแข็งตัวของเลือด โดยตัว K นั้นมาจากคำว่า Koagulations-Vitamin ซึ่งก็คือวิตามินที่เกี่ยวกับการแข็งตัวของเลือดนั่นเอง


เราจะะหาวิตามินเคได้จากที่ไหนบ้าง
วิตามินเค (Vitamin K) เป็นเรื่องที่น่ายินดีที่แบคทีเรียในลำไส้สามารถสร้างวิตามินเคให้เราได้ครับ ดังนั้นอาการขาดวิตามินเค จึงเกิดขึ้นได้ยากมาก และวิตามินเคยังพบในอาหารพวก กะหล่ำปลี บรอลโคลี่ ผักโขม และน้ำมันพืชอีกด้วยครับ
ประโยชน์ของวิตามินเค
  • เมื่อเกิดบาดแผลจะทำให้เลือดแข็งตัวเร็ว
  • ในยามที่ไม่มีบาดแผลจะป้องกันไม่ให้เลือดแข็งตัว
แล้วถ้าขาดวิตามินเคล่ะ
  • เสี่ยงต่อภาวะเลือดออกง่ายโดยเฉพาะในเด็กแรกคลอด แพทย์จะฉีด วิตามินเค ให้ทุกรายเพื่อป้องกันโรคเลือดออกง่ายในเด็ก (Hemorrhagic Disease of Newborn)
  • เลือดออกตามอวัยวะต่างๆใต้ผิวหนัง
  • เกร็ดเลือดต่ำ
  • มีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดโรคกระดูกพรุน (Osteoporosis)
  • มีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ (Coronary Artery Disease)
แต่สำหรับผู้ที่ได้รับวิตามินเคมากเกินไปนั้นอาจทำให้เกิดอาการ คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสียได้และในผู้หญิงที่ตั้งครรภ์อาจทำให้เกิดภาวะดีซ่าน (Jaundice) ในเด็กแรกคลอดได้
...วิตามิน vitaminวิตามิน vitaminวิตามิน vitaminวิตามิน vitaminวิตามิน vitaminวิตามิน vitamin

Posted by Life and Health 0 ความคิดเห็น

วิตามินอี(Vitamin E)คืออะไร
วิตามินอี(Vitamin E) มีชื่อเรียกว่า Tocopherol ซึ่งเป็นวิตามินที่ละลายในไขมัน เป็นตัวต่อต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant ) ที่สำคัญมากตัวหนึ่ง และยังมีหน้าที่ป้องกันผนังเซลล์จากออกซิเจนที่จะมาทำลายเซลล์ วิตามินอีนี้มีหลายโครงสร้างด้วยกัน ซึ่งมีถึงแปดโครงสร้าง และแต่ละโครงสร้างนั้นก็มีฤทธิ์ไม่เท่ากัน

เราจะะหาวิตามินอีได้จากที่ไหนบ้าง
วิตามินอี(Vitamin E) พบได้ใน อะโวคาโด อัลมอนด์ เมล็ดข้าวสาลี เมล็ดทานตะวัน ธัญพืช และผักโขมเป็นต้น

ประโยชน์ของวิตามินอี
  • ป้องกันผนังเซลล์ถูกทำลาย(ทุกเซลล์นะครับ)
  • เสริมสร้างภูมิต้านทาน
  • แผลหายเร็ว
  • ผิวพรรณสดใส
แล้วถ้าขาดวิตามินอีล่ะ
  • การขาดวิตามินอีเพียงชนิดเดียวนั้นพบได้น้อย มักพบในผู้ที่มีปัญหาเรื่องการดูดซึมไขมันซึ่งจะส่งผลต่อวิตามินตัวอื่นที่ละลายในไขมันด้วย (วิตามินที่ละลายในไขมันนั้นก็จะถูกดูดซึมพร้อมไขมันในลำไส้ครับ)
  • ภูมิต้านทานต่ำลง
  • ทรงตัวลำบาก
  • ระบบประสาททำงานผิดปกติ และกล้ามเนื้ออ่อนแรง
  • เสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด (Cardiovascular Disease) โรคหลอดเลือดแข็งตัว(Atherosclerosis) โรคความดันโลหิตสูง (Hypertension) โรคพวกนี้อยู่ในกลุ่มเดียวกันครับ มักมาด้วยกัน
แต่ถ้าหากร่างกายวิตามินอีถ้าได้รับมากเกินไป อาจทำให้เกิดอาการปวดศีรษะ ปวดท้อง ตาพร่ามัว อ่อนเพลีย อาจทำให้เมื่อมีบาดแผลแล้วเลือดหยุดยากครับ
..วิตามิน vitaminวิตามิน vitaminวิตามิน vitaminวิตามิน vitaminวิตามิน vitaminวิตามิน vitamin

Posted by Life and Health 0 ความคิดเห็น

วิตามินดี(Vitamin D)คืออะไร
วิตามินดี(Vitamin D)เป็นกลุ่มของวิตามินที่สามารถละลายในไขมันได้ โดยมีสองตัวหลักๆคือ วิตามินดี 2 คือ Ergocalciferol และ วิตามินดี 3 คือ Cholecalciferol เป็นวิตามินที่ร่างกายสามารถสร้างเองได้โดยการกระตุ้นจากรังสียูวีบี (UVB) ซึ่งมีอยู่ในแสงแดด และเนื่องจากวิตามินที่ละลายในไขมันครับ ดังนั้นร่างกายจึงเก็บสะสมวิตามินดีได้ และมีส่วนช่วยในการสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกายอีกด้วย
เราจะหาวิตามินดี(Vitamin D)ได้จากที่ไหนบ้าง
วิตามินดีได้มาจากสองแหล่งครับ คือ จากการร่างกายสังเคราะห์ได้เองโดยการกระตุ้นของแสงแดดยามเช้า อย่างที่สองคือจากอาหาร โดยจะพบมากในตับ ปลา หอย ไข่แดง เนย แต่ปริมาณนั้นน้อยกว่าได้รับจากแสงแดด ดังนั้นถ้าหากคุณสามารถเดินออกไปรับแสงแดดตอนเช้าได้ในทุกๆวัน ก็ไม่ต้องกลัวว่าจะขาดวิตามินดีนะครับ ยกเว้นในผู้ที่เป็นโรคที่ไม่สามารถสร้างวิตามินดี ก็อีกเรื่องนึงครับ
ประโยชน์ของวิตามินดี
  • ช่วยในการดูดซึมแคลเซียม
  • ช่วยให้กระดูกและฟันแข็งแรง เพราะทำให้แคลเซียมและฟอสฟอรัสไปเก็บที่กระดูกและฟัน
  • ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย
แล้วถ้าขาดวิตามินดีล่ะ
  • ในเด็กจะทำให้เกิดโรคกระดูกอ่อน(Rickets)
  • ในผู้ใหญ่ทำให้เกิดโรคกระดูกพรุน(Osteoporosis) และโรคกล้ามเนื่ออ่อนแรงและกระดูกหักง่าย(Osteomalacia)
  • ฟันผุ
  • ดูดซึมแคงเซียมได้น้อยลง
วิตามินดีถ้าได้รับมากเกินไป
เนื่องจากวิตามินที่ละลายในไขมันนั้นสามารถสะสมในร่างกายได้ ทำให้มีโอกาสเกิดวิตามินดีเกิน ซึ่งที่อาการเกิดขึ้นคือ คลื่นใส้ อาเจียน ปัสสาวะมาก ท้องเดิน หรือมีหินปูนเกาะตามอวัยวะและเนื้อเยื่อ
..วิตามิน vitaminวิตามิน vitaminวิตามิน vitaminวิตามิน vitaminวิตามิน vitaminวิตามิน vitamin

Posted by Life and Health 1 ความคิดเห็น


วิตามินซี(Vitamin C)คืออะไร
วิตามินซี(Vitamin C) มีชื่อเรียกว่า กรดแอสคอร์บิก (Ascorbic Acid) เป็นสารอาหารที่มีความจำเป็นต่อกระบวนการต่างๆในร่างกายทั้งในสัตว์และพืช วิตามินซี(Vitamin C) นี้เป็นที่รู้จักกันมานานแล้วตั้งแต่ปี ค.ศ.1975 โดยกะลาสีเรือของประเทศอังกฤษได้สังเกตุว่า เหล่าลูกเรือมักเป็นโรคลักปิกลักเปิด หรือที่รู้จักกันในชื่อของโรคเลือดออกตามไรฟัน เนื่องจากไม่ได้รับประทานผักและผลไม้สด วิตามินซียังเป็นตัวกำจัดอนุมูลอิสระ (Antioxidant) ที่สำคัญอีกด้วย

เราจะหาวิตามินซี(Vitamin C)ได้ที่ไหนบ้าง
วิตามินซี (Vitamin C) พบมากในผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว เช่น ส้ม มะนาว สับปะรด สตรอเบอรรี่ และผักสด เช่นมะเขือเทศ

ประโยชน์ของวิตามินซี

  • ป้องกันการเกิดโรคลักปิดลักเปิด
  • ช่วยเสริมสร้างคอลลาเจน (Collagen) ให้มีความแข็งแรงมากขึ้น
  • ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงต่อผนังหลอดเลือ
  • ช่วยให้แผลหายเร็ว
  • ลดการเกิดภาวะหลอดเลือดแข็งตัว
  • ช่วยลดโอกาสเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ
  • ช่วยให้วิตามินอี ทำงานได้ดีขึ้น

ถ้าขาดวิตามินซี ล่ะ
  • เป็นโรคลักปิดลักเปิด
  • เลือดออกง่าย
  • ภูมิต้านทานต่ำ
  • แผลหายช้า
ในกรณีที่กินวิตามินซีวันละ 1000 มิลลิกรัมขึ้นไปในบางคนอาจเกิดอาการคล้ายท้องเสียได้
..วิตามิน vitaminวิตามิน vitaminวิตามิน vitaminวิตามิน vitaminวิตามิน vitaminวิตามิน vitamin

Posted by Life and Health 3 ความคิดเห็น

วิตามินบี 12(Vitamin B12) คืออะไร
วิตามินบี 12(Vitamin B12) มีชื่อเรียกว่า Cobalamin ซึ่งวิตามินตัวนี้มีบทบาทสำคัญในการที่จะทำให้ระบบประสาท และเม็ดเลือดแดงทำงานเป็นปกติ มีความจำเป็นต่อการเผาผลาญอาหารในร่างกายในทุกเซลล์ จำเป็นต่อการสร้าง DNA กรดไขมัน และการสร้างพลังงาน วิตามินบี 12(Vitamin B12) เป็นวิตามินที่มีโครงสร้างซับซ้อนที่สุดในบรรดาวิตามินทั้งหมดซึ่งมีธาตุโคบอลท์ (Cobalt) เป็นส่วนประกอบ
เราจะหาวิตามินบี 12 ได้จากที่ไหนบ้าง
วิตามินบี 12(Vitamin B12) นั้นส่วนใหญ่พบในอาหารที่มาจากสัตว์ เนื่องจากวิตามินบี 12(Vitamin B12) ไม่มีในพืชครับ แต่จะมีอยู่ใน ปลา หอย และเนื้อ โดยเฉพาะเนื้อไก่กับตับครับ
ประโยชน์ของวิตามินบี 12
• ช่วยในการสร้างเซลล์
• ช่วยกรดโฟลิกในการสร้างเม็ดเลือดและ ป้องกันภาวะโลหิตจาง
• ช่วยให้ระบบประสาททำงานมีประสิทธิภาพดีขึ้น
ถ้าขาดวิตามินบี 12 ล่ะ
• เกิดภาวะโลหิตจาง
• ระบบประสาททำงานผิดปกติ
• อ่อนเพลีย
• ซึมเศร้า
• การทำงานของลำไส้ผิดปกติ
..วิตามิน vitaminวิตามิน vitaminวิตามิน vitaminวิตามิน vitaminวิตามิน vitaminวิตามิน vitamin

Posted by Life and Health 2 ความคิดเห็น


วิตามินบี 9(Vitamin B9) คืออะไร
วิตามินบี 9(Vitamin B9) มีชื่อเรียกว่า กรดโฟลิก (Folic acid) ซึ่งนิยมเรียกกันมากกว่าคำว่าวิตามินบี 9 ทำให้คนทั่วไปมักไม่รู้จักวิตามินชนิดนี้ แต่รู้จักกรดโฟลิก (Folic acid)แทน นับว่าเป็นวิตามินอีกตัวหนึ่งที่มีความสำคัญโดย กรดโฟลิก (Folic acid)นั้นจะทำหน้าที่ช่วยในการสังเคราะห์ DNA, RNA และช่วยวิตามินบี 12 ในการสร้างเม็ดเลือด ความต้องการกรดโฟลิก (Folic acid)จะมากขึ้นในกลุ่มคนบางกลุ่มคือ สตรีระหว่างตั้งครรภ์ ผู้ที่มีภาวะโลหิตจาง ร่างกายมีการสูญเสียเลือด เนื่องจากมีการใช้พลังงานมากและมีการหมุนเวียนของการสร้างเซลล์มาก
เราจะหากรดโฟลิกได้จากที่ไหนบ้าง
กรดโฟลิกพบได้ทั้งใน ธัญพืช ตับ ผักกาดหอม และถั่วลิสง
ประโยชน์ของกรดโฟลิก
• เพิ่มปริมาณเม็ดเลือดแดงในเลือด โดยเฉพาะหญิงตั้งครรภ์ และผู้ป่วยโรคธาลัสซีเมีย (Thalassemia)
• ป้องกันการเกิดโรคผิดปกติของ "ท่อระบบประสาท (Neural Tube Defect) ในเด็กเมื่อแม่ที่ตั้งครรภ์ได้รับวิตามินนี้ ดังนั้นในคนท้อง แพทย์จึงนิยมให้กรดโฟลิกกลับไปรับประทานด้วย
• ป้องกันโรคโลหิตจาง
• เจริญอาหาร
ถ้าขาดกรดโฟลิก ล่ะ
• เหนื่อย อ่อนเพลีย
• เป็นโรคซีดชนิดเม็ดเลือดแดงใหญ่(Megaloblastic Anemia)
• ในหญิงตั้งครรภ์ อย่างที่กล่าวไปข้างต้น ถ้าขาดวิตามินชนิดนี้ทำให้ ลูกที่เกิดมาเป็นโรคผิดปกติของ "ท่อระบบประสาท (neural tube defect)"ได้
..วิตามิน vitaminวิตามิน vitaminวิตามิน vitaminวิตามิน vitaminวิตามิน vitaminวิตามิน vitamin

Posted by Life and Health 1 ความคิดเห็น

วิตามินบี 6(Vitamin B6)คืออะไร
วิตามินบี 6(Vitamin B6) มีชื่อเรียกว่า Pyridoxine เป็นสารที่จำเป็นต่อการสร้างดีเอ็นเอ (DNA) และจำเป็นต่อการสร้างน้ำตาลกลูโคสจากไกลโคเจน (Glycogen) การสร้างสารสื่อประสาท การสร้างเม็ดเลือดแดง การสร้างกรดอะมิโน (Amino Acid) และช่วยในการดูดซึมคาร์โบไฮเดรต ไขมัน และโปรตีน

แล้ววิตามินบี 6 หาได้ที่ไหนบ้าง
วิตามินบี 6 พบได้ในอาหารทั่วไปทั้ง ปลา ตับ เนื้อ ไข่ เมล็ดพืช
ประโยชน์ของวิตามินบี 6
  • ช่วยการดูดซึมวิตามินบี 12
  • ลดอาการเกิดปลายประสาทอักเสบ
ถ้าขาดวิตามินบี 6 ล่ะ
  • ปลายประสาทอักเสบ
  • ในเด็กแรกเกิดอาจทำให้เกิดอาการชักได้
  • การตอบสนองของประสาทช้าลง
  • เบื่ออาหาร
..วิตามิน vitaminวิตามิน vitaminวิตามิน vitaminวิตามิน vitaminวิตามิน vitaminวิตามิน vitamin

Posted by Life and Health 3 ความคิดเห็น

วิตามินบี 5
วิตามินบี 5 คืออะไร
วิตามินบี 5 มีชื่อเรียกว่า Pantothenic Acid เป็นสารที่จำเป็นในการสร้างโคเอนไซม์เอ (Coenzyme-A หรือ CoA) และเป็นสารสำคัญในการสร้าง โปรตีน ไขมัน และ คาร์โบไฮเดรต ชื่อของวิตามินบี 5 มีรากศัพท์มาจากคำว่า "Pantothen" ในภาษากรีก ซึ่งหมายถึง "มาจากทุกที่" เพราะว่าวิตามินบี 5 นี้มีอยู่ในอาหารเกือบทุกชนิด
แล้ววิตามินบี 5 หาได้ที่ไหนบ้าง
อย่างที่บอกครับ วิตามินนี้พบในอาหารแทบทุกชนิด แต่ที่พบว่ามีความเข้มข้นมากที่สุดคือ ในเนื้อสัตว์ ตับ ไข่แดง ปลา ถั่ว ธัญพืช
ประโยชน์ของวิตามินบี 5

  • ช่วยป้องกันริ้วรอย
  • ช่วยให้บาดแผลหายเร็วขึ้น
  • ช่วยให้ทนต่อความเครียดได้มากขึ้น
  • ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกายเพิ่มขึ้น
  • ช่วยลดการเกิดสิว
แล้วถ้าขาดวิตามินบี 5 ล่ะ
การขาดวิตามินบี 5 นั้นยากมากครับ เพราะอย่างที่บอกว่า มีอยู่ในอาหารเกือบทุกชนิด ดังนั้นคนที่ขาดวิตามินชนิดนี้ มักจะเป็นผู้ที่ขาดสารอาหารอย่างรุนแรง และขาดวิตามินหลายชนิดพร้อมกัน การขาดวิตามินบี 5 ทำให้ไม่สามารถสร้างโคเอนไซม์เอ (CoA) ได้ จึงทำให้เกิดอาการ คือ
  • หงุดหงิดง่าย
  • อ่อนเพลีย ไม่มีแรง
  • ชา
  • เป็นตะคริวได้ง่าย
  • น้ำตาลในเลือดต่ำ
  • นอนไม่หลับ
  • คลื่นใส้ อาเจียน ปวดท้อง
  • เบื่ออาหาร
  • ปวดแสบปวดร้อนเหมือนโดนไฟลวกเท้าหรือที่เรียกว่า "Burning Feet Syndrome"
..วิตามิน vitaminวิตามิน vitaminวิตามิน vitaminวิตามิน vitaminวิตามิน vitaminวิตามิน vitamin

Posted by Life and Health 2 ความคิดเห็น

วิตามินบี 3(Vitamin B3)

วิตามินบี 3(Vitamin B3)คืออะไร

วิตามินบี 3(Vitamin B3) มีชื่อเรียกอีกอย่างว่า Niacine ตัว Niacine นี้ มีความสำคัญคือตัวมันเองจะถูกเปลี่ยนเป็น Nicotinamide จากนั้นจะเปลี่ยนเป็น NAD และ NADP ครับ (ซึ่งสองตัวนี้มีความสำคัญมากในการหายใจระดับเซลล์) วิตามินบี 3 นี้เคยถูกเรียกว่าสารป้องกันโรคเพลลากรา(Pellagra) โรคนี้ไม่มีชื่อภาษาไทยครับ ซึ่งโรคนี้ทำให้ท้องเสีย, ผิวหนังอักเสบ, ความจำเสื่อม และทำให้เกิดอาการทางระบบประสาทที่สามารถทำให้เสียชีวิตได้

แล้ววิตามินบี 3 หาได้ที่ไหนบ้าง
วิตามินชนิดนี้พบได้ใน ตับ เนื้อไก่ ปลา ไข่ นม มะเขือเทศ ผักใบเขียว และเห็ด
วิตามินนี้ในท้องตลาดมีอยู่ 2 แบบ คือ Nicotinic Acid และ Nicotinamide ซึ่ง Nicotinic Acid นั้นทำให้อาการร้อนวูบวาบได้ ในขณะที่ Nicotinamide ไม่ทำให้เกิดอาการนี้

ประโยชน์ ของ วิตามินบี 3
  • แน่นอนครับ ต้องใช้ในการเผาผลาญอาหารทั้งคาร์โบไฮเดรต ไขมัน และโปรตีน
  • ลดไขมันเลว (LDL) เพิ่มไขมันดี(HDL) ในเส้นเลือด และลดไตรกลีเซอไรด์ (Triglyceride) ด้วย ถ้าไปที่โรงพยาบาลสิ่งที่หมอเขาจะดูเกี่ยวกับไขมันในเส้นเลือดก็คือสามตัวนี้แหละครับ
  • ลดการเกิดโรคหลอดเลือดแข็งตัว
แล้วถ้าขาดวิตามินบี 3 ล่ะ
  • ทำให้หงุดหงิดง่าย
  • ไม่มีสมาธิ
  • อ่อนเพลีย
  • โรคเพลลากรา
แต่ถ้าได้รับวิตามินบี 3ในปริมาณที่สูงเกินไปก็เป็นอันตรายเช่นกันครับ
  • มีพิษต่อตับถ้าได้รับในปริมาณมาก
  • เนื่องจากทำให้น้ำตาลในเลือดเพิ่ม จึงอาจทำให้โรคเบาหวานแย่ลง
  • ทำให้กรดยูริคสูงขึ้น ทำให้อาการเก๊าท์แย่ลงได้
..วิตามิน vitaminวิตามิน vitaminวิตามิน vitaminวิตามิน vitaminวิตามิน vitaminวิตามิน vitamin

Posted by Life and Health 1 ความคิดเห็น

วิตามินบี 2(Vitamin B2)
วิตามินบี 2 คืออะไร
วิตามินบี 2 (Vitamin B2) มีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า Riboflavin เป็นวิตามินที่มีความจำเป็นต่อการเจริญเติบโต การหายใจระดับเซลล์ และการสร้างพลังงาน เช่นกันครับ "วิตามินบี 2" เป็นวิตามินที่ละลายน้ำและทนต่อความร้อน ซึ่งจะแตกต่างจากวิตามินบี 1 ที่ไม่ทนต่อความร้อน

วิตามินบี 2 นั้นพบมากในอาหารจำพวก ธัญพืช ตับ เนย ไข่แดง และผักใบเขียวครับ โดยเฉพาะ บรอคโคลี่
ประโยชน์ของวิตามินบี 2

  • ช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ทำให้อวัยวะโดยเฉพาะผิวหนังและผมแข็งแรง
  • ช่วยในการเจริญเติบโต
  • ป้องกันการเกิดต้อกระจก
ถ้าขาดวิตามินบี 2
  • โรคปากนกกระจอก
  • ชะลอการเติบโตของร่างกาย
  • ผิวหนังแห้ง
  • อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย
..วิตามิน vitaminวิตามิน vitaminวิตามิน vitaminวิตามิน vitaminวิตามิน vitaminวิตามิน vitamin

Posted by Life and Health 1 ความคิดเห็น

วิตามิน บี 1(Vitamin B1)
เป็นวิตามินที่วิตามินที่ละลายน้ำครับ ยังจำได้ไหมครับ ในบทความครั้งก่อนที่บอกว่า มีวิตามินอะไรบ้างที่ละลายน้ำได้ ดังนั้นจึงถูกดูดซึมได้ง่าย แล้วก็ขับออกง่ายเช่นกัน
เราจึงไม่ค่อยเห็นวิตามินในกลุ่มที่ละลายน้ำนั้นมีปริมาณมากเกินจนเป็นพิษ

วิตามิน บี 1 คืออะไร

วิตามิน บี 1 มีชื่อเรียกอีกอย่างว่า Thiamine ทำหน้าที่เป็นส่วนหนึ่งในการเปลี่ยนน้ำตาลกลูโคสให้เป็นพลังงานและยังช่วยในกระบวนการสร้างไขมัน การทำงานของหัวใจ และระบบประสาทให้ทำงานเป็นปกติ อีกอย่างนึงก็คือ เอนไซม์ที่จำเป็นต้องใช้วิตามินบี 1 นั้น มีอยู่ในทุกเซลล์ครับ ดังนั้นทุกเซลล์ต้องการวิตามิน บี 1 ครับ
แล้วเราจะหาวิตามินบี 1 ได้จากที่ไหน วิตามินชนิดนี้พบมากในธัญพืชครับ เช่น รำข้าว ถั่ว ข้าวกล้อง ไข่แดง เนื้อหมู ตับ ปลา เป็นต้น
ประโยชน์ของวิตามินบี 1
  • ช่วยในการเจริญเติบโตของร่างกาย โดยเฉพาะเด็ก
  • ช่วยในการทำงานของระบบประสาทเป็นไปอย่างปกติ
  • ช่วยย่อยอาหาร เจริญอาหาร ดังนั้นหมอจึงชอบสั่งเวลาคนไข้กินไม่ได้ว่า ให้วิตามินบำรุงไปกิน ซึ่งมีส่วนประกอบของวิตามิน บี 1 นั่นเอง
ส่วนอาการของผู้ที่ขาดวิตามินบี 1 นั้น จะทำให้เกิดผลดังนี้
  • การเจริญเติบโตของเด็กจะหยุดลง
  • การทำงานของร่างกายจะแย่ลง โดยเฉพาะ ระบบประสาทและหัวใจ
  • โรคเหน็บชา
  • กล้ามเนื้ออ่อนแรง
  • ท้องผูก เบื่ออาหาร อาหารไม่ย่อย
  • ความจำเสื่อม
  • ในเด็กทารากที่ขณะมารดาตั้งครรภ์แล้วขาดวิตามินตัวนี้ก็จะทำให้เกิด โรคเกี่ยวกับหัวใจ และระบบประสาทเช่นกัน
นี่แหละครับ ความสำคัญของวิตามินบี 1
..วิตามิน vitaminวิตามิน vitaminวิตามิน vitaminวิตามิน vitaminวิตามิน vitaminวิตามิน vitamin

Posted by Life and Health 1 ความคิดเห็น

วิตามิน บี (Vitamin B)
คราวนี้ผมจะพูดถึง วิตามินบี ครับ วิตามินบีนี้ ซึ่งตอนแรกเคยถูกเข้าใจว่ามีแค่ชนิดเดียวครับ แต่ต่อมาเมื่อมีความรู้ทางวิทยาศาตร์เพิ่มขึ้น ทำให้พบว่าจริงๆแล้ววิตามินบีมีอยู่หลายตัวด้วยกัน ปัจจุบันมี 7 ตัวครับ
วิตามินบี 1 Thiamine
วิตามินบี 2 Riboflavin
วิตามินบี 3 Niacin
วิตามินบี 5 Pantothenic Acid
วิตามินบี 6 Pyridoxine
วิตามินบี 9 Folic Acid
วิตามินบี 12 Cabalamin
ครั้งต่อไปผมจะอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิตามินบีแต่ละตัวครับ
..วิตามิน vitaminวิตามิน vitaminวิตามิน vitaminวิตามิน vitaminวิตามิน vitaminวิตามิน vitamin

Posted by Life and Health 1 ความคิดเห็น

คราวนี้ผมจะเขียนเกี่ยวกับ วิตามินเอ ครับ
ขอเขียนเกี่ยวกับวิตามินเอที่ได้จากธรรมชาติก่อนนะครับ ส่วนพวกวิตามินเอสังเคราะห์นั้นขอเว้นไปก่อนครับ ถ้ามีโอกาส หรือมีผู้ใดต้องการข้อมูล ผมเองจะพยายามหามาให้ครับ

วิตามินเอ คืออะไร วิตามินเอ เป็นสารอาหารที่สำคัญที่ช่วยให้ระบบสายตาทำงานเป็นปกติ และทำให้เซลล์เจริญเติบโตปกติ, รักษาความสมบูรณ์ของเซลล์เยื่อบุ ภูมิต้านทานและระบบสืบพันธุ์ พูดง่ายๆก็คือ
1.ทำให้การทำงานของสายตาเป็นปกติ
2.ที่ไหนมีมี"เซลล์"ที่นั่นจำเป็นต้องมี "วิตามินเอ" เพราะมันทำให้เซลล์เจริญเติบโตและสมบูรณ์ ทั้งกระดูก ผิวหนัง เส้นผม และเซลล์ทั่วร่างกาย ทำให้ผิวหนังและผมแข็งแรง(บางคนต้องการวิตามินเอเพราะประโยชน์มันอันนี้แหละ)
3.ทำให้ร่างกายมีภูมิต้านทานที่ดีขึ้น
4.ทำให้ระบบสืบพันธุ์ทำงานปกติ

วิตามินเอ แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม

1. อยู่ในรูปแบบวิตามินอยู่แล้ว (Proformed Vitamin A)หรือเรียกว่า Retinol ซึ่งได้มาจากผลิตภัณท์จากสัตว์ มีมากใน ตับ เนย



2. กำลังจะเป็นวิตามินเอ (Provitamin A) หรือเรียกว่า Carotenes เป็นสารที่เมื่อเข้าสู่ร่างกายจึงได้รับการเปลี่ยนเป็นวิตามินเอ พบมาในผักสีเขียวเข้ม เหลือง แดง และส้ม เช่น แครอท ผักโขม ฟักทอง แต่ที่มากจริงๆเชื่อไหมครับ อยู่ในตำลึง ครับ


นอกจากนี้งานวิจัยจากประเทศสหรัฐอเมริกาพบว่า วิตามินเอ นั้นพบในตับมากที่สุด รองลงมาคือ แครอท เนย ผักโขม และฟักทอง

ประโยชน์ของวิตามินเอ

  • ช่วยบำรุงสายตา
  • แก้โรคตามัวตอนกลางคืน
  • ช่วยให้กระดูก และฟันแข็งแรง
  • ช่วยสร้างความต้านทานให้ระบบหายใจ
  • ทำให้ผิวหนังมีสุขภาพดี ช่วยลดการอักเสบของสิวและช่วยลบจุดด่างดำ
แต่ถ้าหากร่างกายได้รับวิตามินไม่เพียงพอ ก็จะก่อให้เกิดอาการดังต่อไปนี้ได้ครับ เช่น โรคตามัวตอนกลางคืน, ตาแห้งทำให้ติดเชื้อได้ง่าย หรือทำให้ผิวพรรณขาดความชุ่มชื้น เป็นต้น

อย่างไรก็ตามถึงแม้วิตามินเอจะมีประโยชน์ แต่ถ้าหากรับประทานมากไปก็ไม่ดีนะครับ เพราะมันทำให้เกิดโรคที่เรียกว่า "กลุ่มอาการวิตามินเอเกิน (Hypervitaminosis A Syndrome)"
  • ถ้าตั้งครรภ์อาจทำให้ลูกพิการ
  • ตับอักเสบ เคยมีคนกินตับหมีขั้วโลกแล้วเป็นโรคนี้ครับ ไม่รู้นึกไงไปกิน
  • ผิวหนังด่าง ลอก ผมร่วง
  • ปวดหัว คลื่นใส้ อาเจียน ตามัว
อันนี้พูดถึงวิตามินเอ ตัวเดียวนะครับ แค่ตัวเดียวก็มีความสำคัญกับกับร่างกายมากแล้ว คราวต่อไปจะพูดถึงตัวอื่นๆตามมา
..วิตามิน vitaminวิตามิน vitaminวิตามิน vitaminวิตามิน vitaminวิตามิน vitaminวิตามิน vitamin

Posted by Life and Health 0 ความคิดเห็น


สวัสดีครับ บทความนี้เป็นบทความที่สอง ที่เขียนขึ้น ผมจะพูดถึงเรื่องของวิตามินก่อน เนื่องจาก เป็นสิ่งที่ความจริงทุกคนรู้จักอยู่แล้วว่ามีอะไรบ้าง แต่หลายๆคนอาจจะลืมไปแล้วว่้าวิตามินคืออะไร มีประโยชน์อย่างไรบ้าง
วิตามิน คืออะไร
วิตามิน คือ สารอาหารทางอินทรีย์ครับ ที่ร่างกายต้องการในแต่ละวัน ในปริมาณเพียงเล็กน้อยเพื่อให้ระบบต่างๆในร่างกายทำงานเป็นปกติครับ เรียกได้ว่า เล็กน้อยแต่ยิ่งใหญ่ครับ
วิตามิน มีอะไรบ้าง
วิตามินแบ่งได้เป็นสองกลุ่มใหญ่ๆครับ คือ

  1. วิตามินที่ละลายในน้ำ คือ B และ C
  2. วิตามินที่ละลายในไขมัน คือ A, D, E และ K

วิตามินั้นเป็นสารที่ร่างการสร้างเองไม่ได้ จึงจำเป็นต้องได้รับจากอาหารที่
รับประทานเข้าไปในแต่ละวัน หากได้รับวิตามินในปริมาณน้อย จะทำให้ร่างกายขาดวิตามินได้ ซึ่งจะมีผลทำให้ระบบของร่างกายผิดปกติครับ
..วิตามิน vitaminวิตามิน vitaminวิตามิน vitaminวิตามิน vitaminวิตามิน vitaminวิตามิน vitamin

Posted by Life and Health 0 ความคิดเห็น

สุขภาพ คืออะไร
นี่เป็นบทความแรกที่จะมุ่งไปสู่การมีสุขภาพที่ดี ผมจึงอยากจะให้เข้าใจของความหมายของคำว่าสุขภาพกันก่อน
ผมจะเริ่มด้วยนิยามของคำว่า สุขภาพของ องค์การอนามัยโลกก่อน
สุขภาพ มีนิยามว่า ภาวะที่มีความสมบูรณ์ทั้งทางร่างกาย, จิตใจ และสังคมรวมทั้งการปราศจากโรคภัยไข้เจ็บทั้งทางกายและทางใจ
เห็นไหมครับว่ามันไม่ได้รวมถึงเรื่องทางกายอย่างเดียว ย้ำนะครับว่าไม่ได้มีแค่สุขภาพทางร่างกายอย่างเดียวอย่างที่คนส่วนใหญ่คิดแต่มันเป็นสุขภาพแบบองค์รวม หรือพูดง่่ายๆก็คือความสุขนั่นเอง
ถ้าเปรียบแล้วก็เหมือนกับว่าคนทั้วไปนั้นรู้จักสุขภาพหรือความสุขแค่ หนึ่งในสามเท่านั้น
สุขภาพหรือความสุขนั้นหมอไม่ได้เป็นผู้กำหนดครับ เราเป็นผู้กำหนด แต่ต้องยอมรับความจริงว่ามีผู้คนดูแลสุขภาพกันน้อยลงมาก อาจจะด้วยหลายสาเหตุ หลายปัจจัย
ผมเองก็เคยเป็นหนึ่งในนั้น ผมจึงอยากต้องการจะแบ่งปันความรู้เกี่ยวกับสุขภาพที่ผมมี เพื่อให้แก่ผู้ที่มีความต้องการเหมือนผม ที่ต้องการจะมีสุขภาพที่ดีพร้อมทั้งสามด้านไปพร้อมๆกัน

ทีนี้เราจะมาพูดถึงเรื่องสุขภาพทั้งสามอย่างครับ

สุขภาพทางกาย(Physical fitness)
คือ ความสมบูรณ์ของร่างกายในด้านต่างๆ ซึ่งเป็นผลมาจากการออกกำลังกายที่สม่ำเสมอ กินอาหารที่เหมาะสม และ พักผ่อนเพียงพอ เช่น การมีกล้ามเนื้อที่แข็งแรง หัวใจที่แข็งแรง มีความคล่องแคล่ว เป็นต้น

สุขภาพจิต(Mental health) คือ ความสมบูรณ์ของจิตใจไม่ว่าจะเป็นความสามารถทางสติปัญญา และอารมณ์ เช่น เป็นคนที่มีอารมณ์ดี มีการตัดสินใจที่ดี มีเหตุผล


สุขภาพทางสังคม(Social health) คือ เมื่อคุณต้องการที่จะทำความรู้จักกับใครสักคน คุณสามารถทำได้ง่าย สามารถรักษาเขาไว้ได้ และมีความใว้เนื้อเชื่อใจกัน
..วิตามิน vitaminวิตามิน vitaminวิตามิน vitaminวิตามิน vitaminวิตามิน vitaminวิตามิน vitamin

Subscribe to My Blog

Subscribe Here